น้ำแข็งขั้วโลกเป็นองค์ประกอบสำคัญของระบบภูมิอากาศโลก ทำหน้าที่สะท้อนแสงอาทิตย์กลับสู่อวกาศ ช่วยควบคุมอุณหภูมิโลกไม่ให้สูงเกินไป อย่างไรก็ตาม น้ำแข็งขั้วโลกกำลังละลายอย่างรวดเร็ว อันเป็นผลมาจากการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศที่เกิดจากกิจกรรมของมนุษย์ การละลายของน้ำแข็งขั้วโลกมีผลกระทบต่อระดับน้ำทะเลและสภาพภูมิอากาศโลกอย่างรุนแรง ดังนี้ ผลกระทบต่อระดับน้ำทะเล น้ำแข็งขั้วโลกเป็นมวลน้ำแข็งขนาดใหญ่ที่ลอยอยู่ในมหาสมุทร เมื่อน้ำแข็งละลาย มวลน้ำแข็งก็จะจมลงสู่มหาสมุทร ทำให้ระดับน้ำทะเลสูงขึ้น จากการประมาณการขององค์การบริหารมหาสมุทรและบรรยากาศแห่งชาติของสหรัฐอเมริกา (NOAA) ระดับน้ำทะเลทั่วโลกเพิ่มขึ้นเฉลี่ย 2.8 ซม. ในช่วงศตวรรษที่ 20 และคาดว่าจะเพิ่มขึ้นอีก 0.2-0.3 เมตร ภายในปี 2100 หากไม่มีการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก การเพิ่มขึ้นของระดับน้ำทะเลจะส่งผลกระทบต่อพื้นที่ชายฝั่งทะเลทั่วโลก พื้นที่ชายฝั่งทะเลที่อยู่ต่ำกว่าระดับน้ำทะเลจะจมน้ำ ชุมชนที่อยู่ริมชายฝั่งทะเลจะต้องย้ายถิ่นฐาน โครงสร้างพื้นฐาน เช่น ถนน สะพาน สนามบิน ท่าเรือ จะถูกทำลาย ส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจและสังคม ผลกระทบต่อสภาพภูมิอากาศโลก น้ำแข็งขั้วโลกทำหน้าที่สะท้อนแสงอาทิตย์กลับสู่อวกาศ เมื่อน้ำแข็งละลาย พื้นผิวน้ำมหาสมุทรจะเพิ่มขึ้น ส่งผลให้โลกดูดซับความร้อนจากดวงอาทิตย์มากขึ้น ทำให้อุณหภูมิโลกสูงขึ้น นอกจากนี้ การละลายของน้ำแข็งขั้วโลกยังส่งผลต่อกระแสน้ำในมหาสมุทร กระแสน้ำเหล่านี้มีส่วนสำคัญในการกระจายความร้อนและสารอาหารในมหาสมุทร เมื่อกระแสน้ำเปลี่ยนแปลงไป อาจส่งผลกระทบต่อสภาพภูมิอากาศและระบบนิเวศทางทะเล มาตรการลดผลกระทบ การลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกเป็นมาตรการสำคัญในการแก้ไขปัญหาการละลายของน้ำแข็งขั้วโลก รัฐบาลและภาคเอกชนทั่วโลกควรร่วมมือกันลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก เช่น หันมาใช้พลังงานหมุนเวียน ปรับปรุงประสิทธิภาพการใช้พลังงาน ปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการใช้พลังงาน […]
Communities for a Better Environment