การตัดไม้ทำลายป่า

ผลกระทบของการตัดไม้ทำลายป่าต่อการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ

การตัดไม้ทำลายป่าเป็นปัญหาสิ่งแวดล้อมที่สำคัญระดับโลก โดยองค์การอาหารและการเกษตรแห่งสหประชาชาติ (FAO) รายงานว่า ป่าไม้ของโลกถูกทำลายไปแล้วประมาณ 420 ล้านเฮกตาร์ในช่วง 50 ปีที่ผ่านมา คิดเป็นพื้นที่ประมาณ 1 ใน 3 ของป่าไม้ทั้งหมดของโลก การตัดไม้ทำลายป่าส่งผลกระทบต่อการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศในหลายด้าน ดังนี้ 1. เพิ่มการปล่อยก๊าซเรือนกระจก ต้นไม้เป็นสิ่งมีชีวิตที่ดูดซับก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์จากชั้นบรรยากาศและปล่อยออกสู่ชั้นบรรยากาศในปริมาณน้อยกว่า ดังนั้น การตัดไม้ทำลายป่าจึงเป็นการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์เข้าสู่ชั้นบรรยากาศมากขึ้น ซึ่งก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์เป็นก๊าซเรือนกระจกที่ทำให้เกิดปรากฏการณ์เรือนกระจกและทำให้โลกร้อน องค์การสหประชาชาติ (UN) ประมาณการว่าการตัดไม้ทำลายป่าทั่วโลกปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์เข้าสู่ชั้นบรรยากาศประมาณ 1.1 พันล้านตันต่อปี ซึ่งคิดเป็นประมาณ 12% ของปริมาณการปล่อยก๊าซเรือนกระจกจากกิจกรรมของมนุษย์ทั้งหมด 2. เปลี่ยนแปลงวัฏจักรน้ำ ต้นไม้ช่วยดูดซับน้ำจากดินและคายน้ำสู่ชั้นบรรยากาศ ส่งผลให้เกิดฝนตกในปริมาณที่สม่ำเสมอ ดังนั้น การตัดไม้ทำลายป่าจึงส่งผลให้ปริมาณน้ำในดินลดลงและเกิดฝนตกไม่สม่ำเสมอ ซึ่งอาจนำไปสู่ปัญหาความแห้งแล้ง น้ำท่วม และภัยแล้ง 3. สูญเสียความหลากหลายทางชีวภาพ ป่าไม้เป็นที่อยู่อาศัยของพืชและสัตว์หลากหลายชนิด การตัดไม้ทำลายป่าจึงส่งผลให้เกิดการสูญเสียความหลากหลายทางชีวภาพ ซึ่งอาจนำไปสู่ปัญหาการสูญพันธุ์ของพืชและสัตว์ 4. ผลกระทบต่อเศรษฐกิจ ป่าไม้เป็นแหล่งทรัพยากรธรรมชาติที่มีความสำคัญต่อเศรษฐกิจของประเทศต่างๆ การตัดไม้ทำลายป่าจึงส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจของประเทศต่างๆ ทั้งในด้านรายได้จากการท่องเที่ยว อุตสาหกรรมป่าไม้ และการเกษตร แนวทางการแก้ไขปัญหา แนวทางการแก้ไขปัญหาการตัดไม้ทำลายป่าเพื่อลดผลกระทบต่อการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ มีดังนี้ การตัดไม้ทำลายป่าเป็นปัญหาสิ่งแวดล้อมที่รุนแรงและส่งผลกระทบต่อการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศอย่างกว้างขวาง […]